บทที่ 13 EPISODE 02 วิธีบอกเลิก [4]
“นายเข้ามาในห้องของฉันได้ยังไง” ฉันถามเสียงดังทั้งที่ยังไม่กล้าก้าวเท้าออกจากห้องนอน
“คีย์การ์ด” มังกรตอบเสียงเรียบพลางล้วงคีย์การ์ดออกมาจากกระเป๋าเสื้อเชิ้ตสีขาวแล้วโยนมันทิ้งบนโต๊ะ
“นายขโมยคีย์การ์ดห้องฉันเหรอมังกร”
“เธอเป็นคนหยิบให้”
“ฉันเนี่ยนะหยิบให้นาย”
“ใช่น่ะสิ เธอคิดว่าเธอเข้าไปนอนในห้องได้ยังไงถ้าฉันไม่แบกเธอเข้าไปล่ะ” มังกรย้อนถาม สีหน้าเขาดูเบื่อหน่ายกับการตอบคำถามของฉัน แต่ก็หันมาตอบทุกคำถามเลย
“ละ แล้วนายออกไปแล้วไม่ใช่เหรอ ไปแล้วกลับมาอีกทำไม” ฉันถามตะกุกตะกัก
ตอนนี้พอจะรู้แล้วว่าทำไมเขาถึงได้มีคีย์การ์ดห้องฉัน แต่อย่าคิดว่าฉันจะพูดขอบคุณที่เขาพาฉันกลับมาเชียวนะ
ความจริงแล้วถ้ารู้ว่าฉันเมา สิ่งที่เขาควรทำคือให้ฉันกลับกับเพื่อน (ถึงแม้ว่ายัยพวกนั้นจะคิดว่าฉันอยากให้เขามาส่งเพราะเป็นแผนการเอาชนะยัยพลอยก็ตามที
“เอารถมาคืน” พูดจบมังกรก็ล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบกุญแจรถของฉันออกมาอีกหนึ่งอย่าง จากนั้นก็โยนมันไปบนโต๊ะเหมือนที่โยนคีย์การ์ดเมื่อครู่นี้
“นี่นายขโมยรถฉันไปขับด้วยงั้นเหรอ มันจะมากไปแล้วนะมังกร!” ฉันถามด้วยความตกใจ หมอนี่มันไม่มีมารยาทจริงๆ ด้วย เลวที่สุด
“ไม่มากเท่ากับที่เธออ้วกใส่รถฉันหรอก เดี๋ยวจ่ายค่าล้างรถกับซักเบาะให้ด้วยนะ ระหว่างนี้ประมาณอาทิตย์นึง หน้าที่เธอคือไปรับไปส่งฉัน” มังกรสั่งเสร็จสรรพ ทำเอาฉันยืนงงเป็นไก่ตาแตก จับใจความสำคัญได้ว่าเมื่อคืนนี้ฉันอ้วกใส่รถเขา และนั่นทำให้วันนี้เขาต้องเอารถฉันไปใช้
ทำไมพอคิดตามที่เขาพูด ฉันถึงรู้สึกว่าเขามีเหตุผลรองรับการกระทำหมดทุกเรื่องเลย แล้วแบบนี้ฉันจะด่าเขาว่ายังไง เหมือนด่าเขาแล้วจะเข้าตัวเองทุกเรื่องยังก็ไม่รู้
“นี่นาย...”
ออด~
ฉันยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ เสียงออดที่หน้าประตูก็ดังแทรก
“อย่าพูดมากนะมังกร”
สัญชาติญาณสั่งให้ฉันรีบพุ่งตัวไปที่ประตูเพราะกลัวว่ามังกรจะเสนอหน้าลุกมาเปิด ถึงประตูแล้วก็เอาตัวขวางเอาไว้ก่อนจะหันกลับไปชี้หน้าเขาทีหนึ่ง
“ห้ามส่งเสียง” กำชับเอาไว้อีกรอบ เขาพยักหน้าตกลง นอนเอียงคอมองฉันเหมือนสนุกที่กำลังปั่นหัวฉันได้ ทำไมฉันจะดูไม่ออกว่าเขากำลังกลั้นขำ
บ้าจริง เดี๋ยวค่อยหาทางตกลงกับเขาทีหลัง แต่ตอนนี้ฉันจะให้คนอื่นรู้ไม่ได้ว่าเขานั่งอยู่ในห้อง ต่อให้ทุกคนจะเข้าใจว่าฉันกับเขาตกลงเป็นแฟนกันแล้วก็เถอะ
ฉันจะเลิก ฉันต้องหาทางเลิกกับเขาให้เร็วที่สุด!
“หวัดดีเพิร์ล”
เปิดประตูมาพบกับรอยยิ้มหวานๆ ที่โคตรปลอม ปกติแล้วยัยเบลล่าห้องฝั่งตรงข้ามไม่เคยพูดกับฉันด้วยซ้ำ แต่วันนี้ดันเดินมาเคาะประตูห้องซะงั้น
“หวัดดี” ฉันทักกลับแล้วฉีกยิ้มปลอมๆ บ้าง ชิ! คิดว่าปลอมเป็นคนเดียวหรือไง
“โทษทีที่มารบกวนนะ แต่ฉันได้ยินคนอื่นเขาพูดกันถึงเรื่องเธอน่ะ”
สาระแน!
“เรื่องอะไรเหรอ” ฉันแกล้งถามทั้งที่รู้อยู่เต็มอก วินาทีนี้ยังจะมีเรื่องอะไรน่าสนใจเท่าเรื่องฉันกับมังกรอีกล่ะ
“เรื่องที่เธอคบกับมังกรไงล่ะ” เบลล่ายิ้มจนตาหยี
ฉันเองก็เลยต้องส่งยิ้มกลับไปทั้งที่ในใจอยากจะกระโดดถีบขาคู่ ฮือออ อึดอัดว้อยย
“ฉันคบกับมังกรแล้วยังไง”
“นี่เธอคบกับเขาจริงๆ เหรอเพิร์ล”
ยังจะมาถามย้ำอีก!
“ก็อย่างที่เห็นในคลิป” ฉันกัดฟันตอบ ในใจกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง อยากจะปฏิเสธหนักมากแต่ถ้าปฏิเสธออกไปฉันก็มีแต่เสียกับเสีย ดังนั้นครั้งนี้ฉันตามน้ำไปก่อน
“แน่ใจแล้วเหรอว่าเธอจะคบกับผู้ชายอย่างมังกรน่ะ”
ฉันก็ถามคำถามนั้นกับตัวเองอยู่เหมือนกัน ซึ่งคำตอบคือไม่มีทาง
“แน่ใจสิ”
แต่สิ่งที่คิด ไม่สามารถพูดออกไปได้ทุกเรื่องหรอก
“จริงๆ เขาก็ไม่แย่สักหน่อย น่ารักดี”
“มังกรเนี่ยนะน่ารัก” ยัยเบลล่าเจตนาถามขยี้
“อืม เขาก็เป็นสุภาพบุรุษดี” ฉันลอยหน้าลอยตาตอบ
หากนับแค่เรื่องเมื่อคืนที่เขาแบกฉันกลับมาแต่ไม่ได้มีอะไรเกินขึ้นมากกว่านั้น ฉันจะถือว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษกว่าที่เคยคิดเอาไว้นิดหนึ่ง แม้ใจจริงเขาอาจจะแค่รอจังหวะและโอกาสอยู่ แต่ถ้ามันยังไม่เกิดขึ้น ฉันจะยังไม่นับก็แล้วกัน
“สุภาพบุรุษที่ไหนทำร้ายผู้หญิงกันล่ะเพิร์ล ฉันว่าเธอรีบๆ ถอนตัวออกมาจะดีกว่า ใครๆ ก็มองออกว่าเธอทำไปเพราะความเมา”
“จริงๆ ก็ไม่เมาเท่าไรนะ ขอบใจที่หวังดี แต่เรื่องส่วนตัว ฉันจะตัดสินใจเองแล้วกัน”
ขอด่าสักทีหนึ่งก็แล้วกัน เรื่องอื่นเห็นวิ่งแจ้นมาแสนดีแบบนี้กับฉันเลย พอเป็นเรื่องผู้ชายนี่ไวนัก
“งั้นก็ตามใจเธอก็แล้วกัน แต่ระวังตัวเองไว้บ้างก็ดีนะ ถึงมังกรจะทั้งหล่อทั้งรวย แต่เธอเองก็เคยเห็นคลิปที่เขาทำร้ายร่างกายพลอยใช่ไหม”
“อืม”
“งั้นฉันก็ขอให้โชคดี” ยัยเบลล่าอวยพรทิ้งท้ายก่อนจะเดินย้อนกลับห้องของตัวเองไปเงียบๆ คิดว่าฉันไม่รู้หรือไงว่าตั้งใจมาสืบข่าวแล้วเอาไปเม้าธ์ต่อ
ปัง!
รอจนยัยนั่นเข้าห้องไปแล้วฉันถึงปิดประตูห้องตัวเอง
“กรี๊ดดด แกทำบ้าอะไรลงไปอีเพิร์ล”
